วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2559

ความประทับใจในการเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด

ความประทับใจ

ในการเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด

   ตึก 50 พรรษามหาวชิราลงกรณ์ (ตึก 7ชั้น)          
ความประทับใจจากตึกนี้  คือ ตั้งแต่ที่ได้เข้ามาเรียนที่ตึกนี้วันแรก เป็นตึกที่มีความทรงจำกับผม อย่างมากไม่ว่าจะเป็นการซ้อม สแตนด์เชียร์ เพลงเชียร์ และกิจกรรมต่างๆ ก็จะต้องนึกถึงตึก 7 ชั้นเป็นอันดับแรก เอกลักษณ์และความน่าสนใจของตึกนี้คือ  จะมีโดมสีฟ้า บริเวณหลังคาหน้าตึกทำให้เวลามองมามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตึกนี้
          

                    มหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ดแห่งนี้ทำให้ได้เรียนรู้อะไรแปลกใหม่ๆหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีพ่อแม่คอยดูแล การรู้จักใช้จ่ายเงินให้เพียงพอและประหยัดที่สุด การไปเรียนโดยที่ไม่มีพ่อแม่คอยรับคอยส่ง ผมต้องรู้จักการพึ่งพาตนเอง ในตอนมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้แรกๆก็ไม่ได้มีความประทับใจอะไรเท่าไหร่ แต่เมื่อเราได้ไปเรียนทุกวัน เริ่มได้รู้จักกับเพื่อนๆมากขึ้น ก็เริ่มมีความประทับใจอะไรหลายๆอย่าง การที่มาอยู่ในที่แปลกใหม่ก็ทำให้ต้องปรับตัวอะไรหลายอย่าง

เพื่อให้เข้ากับสถานที่นั้นๆ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการมาเรียนที่นี่เลย
ที่มาเรียนที่มหาวิทยาลัยที่มีความร่มรื่นเงียบสงบเป็นธรรมชาติเหมาะแก่การเรียน การสอน นักศึกษาที่มาจากหลายๆสถาบันหลายๆ แห่งมารวมกันก็ย่อมที่จะมีการปรับตัวเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้  จริงๆความประทับใจในการมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็มีมากมาย แต่ที่ผมประทับใจมากที่สุดก็คงจะเป็นในเรื่องเพื่อนๆ เนื่องจากเพื่อนๆในห้องคอยให้ความช่วยเหลือเราในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะการคอยช่วยเหลือเรื่องงานเรื่องการบ้าน งานกลุ่มที่คอยช่วยกันทำไม่เกี่ยงงาน  ทำให้รู้สึกประทับใจมากเลย เพราะตอนอยู่ที่สถานศึกษาเดิมไม่ค่อยจะมีแบบนี้สักเท่าไหร่ อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกว่าเพื่อนไม่ทิ้งเราต้องจบพร้อมกันแน่ถ้าเรามีความพยายาม ความขยัน ความอดทนในการเรียน นอกจากเรื่องเรียนแล้วก็ยังมีเรื่องกิจกรรมที่เพื่อนๆ คอยให้ความช่วยเหลือกันช่วยกันเสนอความคิดเห็นต่างๆระดมความคิดเพื่อให้กิจกรรมต่างๆออกมาสำเร็จลุล่วงโดยปราศจากปัญหาน้อยที่สุด การแบ่งงานแบ่งหน้าที่กันทำตามความถนัดของตัวเองมีอะไรก็คอยช่วยกันตลอดทำให้รู้สึกสนุกกับกิจกรรมไม่น่าเบื่ออย่างที่เคยผ่านๆมา ทำให้ภายในห้องสามัคคีกันมากขึ้นและสนิทกันมากขึ้นอีกด้วย ในการเรียนนั้นถ้าคนไหนที่เรียนเก่งแต่ไม่มีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนๆก็จะทำให้เพื่อนไม่อยากที่จะคบด้วย แต่ในเพื่อนๆในห้องไม่ได้เป็นอย่างนั้นนั้น ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็คอยจะช่วยเหลือ แบ่งปันความรู้ให้คำปรึกษากันอยู่ตลอด ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเพื่อนๆในห้องเป็นอย่างมากมาก
             


ตึกที่เห็นมีชื่อว่า  ตึก 80 พรรษามหาวชิราลงกรณ์ (ตึก 9ชั้น)
ความประทับใจจากตึกนี้  คือ มีความป็นระเบียบเรียบร้อย และมีความทันสมัย และมีจุดบริการต่างๆไว้คอยบริการความสะดวกสบายให้แก่ นักศึกษา และ อาจารย์ อาทิเช่น   ห้องการเงิน ห้องวิชาการต่างๆ  มินิมาร์ท  ตู้ ATM ธนาคารต่างๆ และห้องเรียนที่มีความสะดวกสบาย พร้อมด้วยจอโปรเจ๊คเตอร์ที่มีไว้ใช้ในการเป็นสื่อ การเรียนการสอนแก่ นักศึกษา และตึกแห่งนี้ มีบุคคลากรที่มี คุณภาพคอยต้อนรับบุคคลภายนอก และ นักศึกษาที่มาใช้บรอการ หรือติดต่อธุระ ด้วยรอยยิ้มที่พร้อมต้อนรับและให้บริการ

          แม้มันจะไม่ได้ดูสำคัญมากมายอะไรแต่ก็อยากที่จะขอบคุณมหาวิทยาลัย ขอบคุณเพื่อนๆในห้องทุกคนที่ทำให้เราได้มารู้จักสนิทสนมกัน คอยช่วยเหลือในเรื่องต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องกิจกรรม หรือเรื่องอะไรก็ตามล้วนแต่ที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจอย่างมาก จากที่กล่าวมาทั้งหมดก็เป็นความประทับใจเล็กๆน้อยๆของผมที่ได้มาเรียนในมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด แห่งนี้  

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2559

เครื่องดื่มประเภทที่มีแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มประเภทที่มีแอลกอฮอล์ (Alcoholic)
สุราที่เกิดจากการหมัก (Fermented) – เป็นประเภทของเครื่องดื่มชนิดมีแอลกอฮอล์ ที่เกิดจากการหมักเป็นสำคัญ การหมักนั้น (Fermentation) ก็เกิดจากกระบวนการของการเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นแอลกอฮอล์ โดยน้ำตาลนั้นจะได้จากแป้ง หรือผลไม้นั่นคือ เบียร์ (Beer) และไวน์ (Wine) ซึ่งไวน์นั้นก็สามารถแบ่งไปได้อีก คื
  • ไวน์ไม่มีฟอง (Still Wine – แบ่งเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว และโรเซ่ ไวน์ )
  • ไวน์มีฟอง (Sparkling Wine)
  • ไวน์เสริมดีกรี (Fortified Wine)
  • ไวน์ปรุงแต่งด้วยสมุนไพร (Aromatized Wine – แบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้อีก คือ เวอร์มูธ Vermouth, บิทเทอร์ Bitter, อนิซ Anise)
          สุราที่เกิดจากการกลั่น (Distilled Spirit) – เป็นประเภทของเหล้าที่เกิดจากการกลั่น จะมีความแรงของแอลกอฮอล์มากกว่า 40o (ในน้ำ 100 จะมีแอลกอฮอล์ 40 ส่วน) ลักษณะเด่นที่ได้จัดวางเหล้าแต่ละตัวไว้ในหมวดนี้ ก็ด้วยเหตุผลหลักของวิชาการผสมเหล้า เพราะศาสตร์ของ “Bartending” นั้น ส่วนมากจะมีเหล้าหลัก (Liquor base) และเหล้ารอง (Liquor flavour) ซึ่งหมวดเหล้าหลักจะมี
  • วิสกี้ (Whisky) – แบ่งได้เป็น สก๊อต วิสกี้ (Scotch Whisky), ไอริช วิสกี้ (Irish Whisky), เบอร์เบิน วิสกี้ (Bourbon Whiskey), คานาเดี้ยน วิสกี้ (Canadian Whisky)
  • บรั่นดี (Brandy) – แบ่งได้เป็นฟรุ๊ตบรั่นดี Fruit Brandy – เป็นบรั่นดีที่ทำมาจากผลไม้อื่นที่ไม่ใช่องุ่น, คอนญัค Cognac – เป็นบรั่นดีที่ทำมาจากองุ่นและต้องผลิตในเขตคอนญัค ของประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น และ อามาญัค Armagnac – เป็นบรั่นดีที่ทำมาจากองุ่น และผลิตในเขตอามาญัคของประเทศฝรั่งเศส
  • จิน (Gin) – เป็นเหล้าที่ทำมาจากเมล็ดข้าว แล้วปรุงแต่งด้วยสมุนไพรบางชนิด และลูกจูนิเปอร์
  • รัม (Rum) – เป็นเหล้ากลั่นที่ทำมาจากน้ำตาลอ้อย สามารถแบ่งออกได้ตามสี ก็คือ ขาวใส (Light), ทอง (Gold) และดำ (Dark)
  • วอดก้า (Vodka) เป็นเหล้ากลั่นที่ผลิตจากมันฝรั่ง แต่ปัจจุบันมีส่วนผสมของเมล็ดข้าวในบางยี่ห้อ
  • เตกีล่า (Tequila) – เป็นเหล้ากลั่นที่ผลิตจากต้น อกาเว่ (Agave)
  • อควาวิท (Aquavit) – เป็นเหล้ากลั่นที่ทำมาจากสมุนไพรและเมล็ดยี่หร่า (Caraway)
  • อารัค (Arak) – เป็นเหล้ากลั่นพื้นเมืองที่ผลิตมาจากน้ำตาลอ้อย
          สุรากลั่นที่ปรุงแต่งรสชาติ (Flavoured Distilled / Liqueur) เป็นเหล้ากลั่นอีกประเภทที่มีการเสริมแต่งด้วยกลิ่นหอมชนิดต่างๆมากมาย ส่วนมากเป็นเหล้าที่มีรสหวาน ใช้ดื่มเพียวๆเพื่อเรียกน้ำย่อย หรือดื่มเพื่อย่อยอาหารก็ได้ ตามศาสตร์ของสูตรเหล้าทั่วๆไป จะนิยมใช้เป็นเหล้ารอง มีอัตราส่วนน้อยกว่าเหล้าหลักที่นิยมๆกัน มีดังนี้
  1. เครื่องดื่มที่บาร์เทนเดอร์ต้องรู้Abricotine ทำมาจากลูกแอปพลิคอท Apricot
  2. Advocaat ทำมาจากเหล้าบรั่นดี, ไข่แดง, Brandy, Egg Yolk
  3. Agentarium ทำมาจากสมุนไพร Herbs
  4. Aguardiente ทำมาจากชะเอม Licorice
  5. Amaretto ทำมาจากผลอัลมอนด์ Almond
  6. Anisette ทำมาจากชะเอม Licorice
  7. Apricot Brandy ทำมาจากเหล้าบรั่นดี, แอปพลิคอท Brandy, Apricot
  8. Atholl Brose ทำมาจากมอลท์ วิสกี้, น้ำผึ้ง, ครีม, ข้าวโอ๊ตบดหยาบ Malt Whisky, Honey, Cream, Oatmeal
  9. Aurum ทำมาจากส้ม, สมุนไพร, Orange, Herbs
  10. Bailey Irish Cream ทำมาจาก ช็อกโกแลต, ไอริช วิสกี้, ครีม, Chocolate, Irish Whisky, Cream
  11. Barombeergeist ทำมาจากลูกแบล็คเบอร์รี่ฃ, Wild blackberries
  12. Bénédictine ทำมาจากเครื่องเทศ, สมุนไพร, Spicies, Herbs

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

  เครื่องดื่ม (Beverage) ทั้งหมด ได้แบ่งแยกอกเป็น 2 หมวดใหญ่ๆ คือ
1. เครื่องดื่มประเภทไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-Alcoholic)
          เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ที่ต้องอธิบายถึง น้ำบริสุทธิ์ประเภท เพราะเมื่อถึงขั้นของการผสมเครื่องดื่มจริง ๆ เราจะต้องรู้จักวิธีการหยิบยกเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เหล่านี้ ให้ไปคู่กับเหล้าชนิดต่าง ๆ ที่อยู่ในหมวดของ “Alcoholic” นั่นเอง
  • น้ำเปล่า (Pure / Table Water) – น้ำเปล่าบริสุทธิ์นั้น ถือว่าเป็นฐานสำหรับเครื่องดื่มทุกชนิดทั้งที่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีแอลกอฮอล์ ฉะนั้นคุณภาพของเหล้าหรือเครื่องดื่มชนิดใดๆก็ตาม จะจับใจผู้ดื่มทุกคนไว้ได้ ก็ต้องมีปัจจัยจากน้ำเปล่าบริสุทธิ์นั่นเอง
  • ผลไม้ (Fruit) – ก็คือ ผมไม้สด (Fresh Fruit) และผลไม้กระป๋อง หรือบรรจุขวด (Canned or Bottled) ซึ่งรสชาติทั้งสอง จะมีความแตกต่างกัน แล้วแต่กรรมวิธีการผลิต บางท่านคงชอบกับผลไม้สดมากกว่า แต่ด้วยการทำงานจริงๆแล้ว เราจำเป็นต้องใช้ผลไม้ทั้งสองชนิดนี้ เหตุผลหลักก็จะเป็นด้วยด้วยต้นทุนค่าใช้จ่าย รสชาติ และการเก็บรักษา
  • สารปรุงแต่งสี และรสชาติ (Squart) – เป็นเครื่องดื่มอีกประเภทที่สังเคราะห์ขึ้น เพื่อใช้ในการให้สีกลิ่นและรสชาติที่มีความเข้มข้น เพื่อใช้ในการปรุง แต่งเครื่องดื่มผสมตามที่เราต้อง อาจใช้แทนน้ำเชื่อมรสชาติต่าง ๆ ก็ได้
  • น้ำเชื่อม (Syrup) – มี 2 ประเภทใหญๆ ก็คือ น้ำเชื่อมธรรมดา (Simple or Sugar Syrup) และน้ำเชื่อมรสผลไม้ (Fruit Syrup) ในส่วนของน้ำเชื่อมธรรมดา ก็คือ น้ำเชื่อมที่ได้จากการเคี่ยวน้ำตาลทรายขาวกับน้ำเดือด ตามส่วนผสมที่เราต้องการบางแห่งก็ใช้น้ำตาล 1 กิโลกรัม ค่อ น้ำเปล่า 1 ลิตร แล้วเคี่ยวจนได้ที่ แต่บางแห่งก็ต้องการความเข้มข้นมากกว่า ก็ให้ลดน้ำเปล่าลง และสำหรับน้ำเชื่อมรสผลไม้นั้น อาจจะสามารถแยกออกไปอีกตามรสชาติและที่มา ก็คือ 
  • เกรนาดีน (Grenadine) เป็นน้ำเชื่อมที่มีกลิ่นหอมของทับทิม เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ใช้บ่อยมาก
  • ออจีท (Orgeat) เป็นน้ำเชื่อมที่มีรสชาติของแอลกอฮอล์ ซึ่งบางตำราอาจผสมด้วยเครื่องเทศ หรือสมุนไพร บางชนิดเข้าไป                                  2. เครื่องดื่มประเภทที่มีแอลกอฮอล์ (Alcoholic)
              สุราที่เกิดจากการหมัก (Fermented) – เป็นประเภทของเครื่องดื่มชนิดมีแอลกอฮอล์ ที่เกิดจากการหมักเป็นสำคัญ การหมักนั้น (Fermentation) ก็เกิดจากกระบวนการของการเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นแอลกอฮอล์ โดยน้ำตาลนั้นจะได้จากแป้ง หรือผลไม้นั่นคือ เบียร์ (Beer) และไวน์ (Wine) ซึ่งไวน์นั้นก็สามารถแบ่งไปได้อีก คื
    • ไวน์ไม่มีฟอง (Still Wine – แบ่งเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว และโรเซ่ ไวน์ )
    • ไวน์มีฟอง (Sparkling Wine)
    • ไวน์เสริมดีกรี (Fortified Wine)
    • ไวน์ปรุงแต่งด้วยสมุนไพร (Aromatized Wine – แบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้อีก คือ เวอร์มูธ Vermouth, บิทเทอร์ Bitter, อนิซ Anise)      สุราที่เกิดจากการกลั่น (Distilled Spirit) – เป็นประเภทของเหล้าที่เกิดจากการกลั่น จะมีความแรงของแอลกอฮอล์มากกว่า 40o (ในน้ำ 100 จะมีแอลกอฮอล์ 40 ส่วน) ลักษณะเด่นที่ได้จัดวางเหล้าแต่ละตัวไว้ในหมวดนี้ ก็ด้วยเหตุผลหลักของวิชาการผสมเหล้า เพราะศาสตร์ของ “Bartending” นั้น ส่วนมากจะมีเหล้าหลัก (Liquor base) และเหล้ารอง (Liquor flavour) ซึ่งหมวดเหล้าหลักจะมี
      • วิสกี้ (Whisky) – แบ่งได้เป็น สก๊อต วิสกี้ (Scotch Whisky), ไอริช วิสกี้ (Irish Whisky), เบอร์เบิน วิสกี้ (Bourbon Whiskey), คานาเดี้ยน วิสกี้ (Canadian Whisky)
      • บรั่นดี (Brandy) – แบ่งได้เป็นฟรุ๊ตบรั่นดี Fruit Brandy – เป็นบรั่นดีที่ทำมาจากผลไม้อื่นที่ไม่ใช่องุ่น, คอนญัค Cognac – เป็นบรั่นดีที่ทำมาจากองุ่นและต้องผลิตในเขตคอนญัค ของประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น และ อามาญัค Armagnac – เป็นบรั่นดีที่ทำมาจากองุ่น และผลิตในเขตอามาญัคของประเทศฝรั่งเศส
      • จิน (Gin) – เป็นเหล้าที่ทำมาจากเมล็ดข้าว แล้วปรุงแต่งด้วยสมุนไพรบางชนิด และลูกจูนิเปอร์
      • รัม (Rum) – เป็นเหล้ากลั่นที่ทำมาจากน้ำตาลอ้อย สามารถแบ่งออกได้ตามสี ก็คือ ขาวใส (Light), ทอง (Gold) และดำ (Dark)
      • วอดก้า (Vodka) เป็นเหล้ากลั่นที่ผลิตจากมันฝรั่ง แต่ปัจจุบันมีส่วนผสมของเมล็ดข้าวในบางยี่ห้อ